[Journey] สรุปเรื่องราวชีวิตใน 1 ปี (2018)

Lifestyle Jan 1, 2019

อันดับแรกขอกล่าวคำว่า “ สุขสันต์วันปีใหม่ Happy Happy New Year ” กันก่อนเลย บล็อกนี้ไม่ได้เป็นบทความเรื่องเซ็นเซอร์ หรือ สาระ อะไรมากมายหลอกครับ เพียงแต่บทความนี้จะเป็นการที่ผมจะสรุปว่าใน 1 ปี เนี่ย ผมทำอะไรลงไป ทำอะไปบ้าง มันก็มีทั้งสาระบ้าง ไม่สาระบ้างตามสไตล์ของผมแหละ ใครอยากลองอ่าน หรือ ติดตามก็ยินดีครับผม ส่วนใครขอผ่านก็ตามสบายเลยครับ บทความนี้ถือว่าเป็นบทความสุดท้ายของปี 2018 นี้ล่ะกัน แถมเป็นบันทึกความจำด้วยเลย


1. เอ้ามาเริ่มกันตั้งแต่ต้นปีเลยล่ะกัน ด้วยความที่ว่างจัด(จริงหลอ) เลยแกะโน้ตบุ๊คเครื่องนี้แหละที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ ทำความสะอาด ปัดฝุ่น แล้วเปลี่ยนซิลิโคนตรง cpu กับ ซิ้ง มันใหม่ พร้อมทั้งซื้อแบตเตอร์รี่ก้อนใหม่ให้มันด้วย (ทำเครื่องให้พร้อมก่อนรับศึกหนัก)

2. อ่ะพอเปิดเรียนได้สักพัก ก็เข้าสู่ช่วงงานปัจฉิมและงานเลี้ยงอำลาพี่ๆ ม.6 กับ น้อง ม.3 ไอ้เราก็ดูแลเครื่องเสียงอยู่แล้วจะพลาดได้ไง ก็ไปช่วยเขา แล้วก็ช่วยยันต่อสายไฟไอ้ที่มันแขวนๆอยู่นั้นแหละก็จบกันไป

3. ประกอบ Rig ใช่ๆ ผมเขียนไม่ผิดหลอกประกอบ Rig ขุดเหรียญดิจิทัลตอนแรกก็มีอยู่ใบเดียว ตอนนี้มีเพิ่มล่ะ เป็นการ์ดคนอื่นด้วยช่วยๆ กัน เลยจับลงเคสเดียวกันไปเดียว (ขุดเหรียญเดียวกันอยู่ Rig เดียวกัน ยังงี้ก็ได้หลอ !! 555+) Rig นี้วางไว้ที่บ้านใครสักคนแหละ

4. เป็น Admin ก็แบบนี้แหละครับมีจัดห้องกันเป็นธรรมดา ผมก็ทำการจัดส่วนที่เป็นคอมเอาไว้ monitor ระบบก็สะอาดไม่เท่าไหร่เดี๋ยวก็รก

5. อันนี้ก็เป็นอีกงานเปิดงานแสดงดนตรีตัวผมเองก็ live สด ทุกงานอยู่แล้วงานนี้ก็เช่นเคยทำระบบ live ปีนี้โรงเรียนจัดงานที่ใต้ศูนย์กีฬาเพราะว่าหอประชุมกำลังปรับปรุงอยู่ ปกติแล้วก็จะจัดที่หอประชุม

ขอแทรกเพิ่มเติมว่าปีนี้ 2018 โรงเรียนผมเนี่ยได้รับเป็นเจ้าภาพงานประชุมวิชาการระหว่างไทยกับญี่ปุ่น (Thailand-Japan Student Science Fair 2018)เป็นงานใหญ่เลยแหละ ที่สำคัญคือมีองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานด้วย ทางโรงเรียนจึงต้องปรับปรุงสภาพแวดล้อมรองรับงาน อาคารสถานที่ต่างๆ ด้วยเดี๋ยวผมเล่าต่อว่าผมทำอะไรบ้างในงานนี้

6. ต่อมาก็ช่วงเวลาปิดเทอมอันเเสนสุขสันต์ของใครหลายๆ คน ใช่ครับตอนนี้เป็นช่วงที่ปิดเทอมแล้วนักเรียนกลับบ้าน ส่วนคุณครูต่างก็ทำงาน เตรียมงาน กันอย่างขยันขันแข็ง ส่วนผมน่ะหลออยู่นี่ครับ NECTEC อาจจะมาแบบงงๆ อ่าเดี๋ยวผมจะเล่าย้อนไปนิดนึงว่าทำไมผมมาอยู่ตรงนี้ได้… ก็เมื่อปลายปี 2017 พอดี สวทช. เขามีโครงการฝึกทักษะวิจัยภาคฤดูร้อนที่ศูนย์วิจัยแห่งชาติ เขาส่งเรื่องมาที่โรงเรียนผม สาระวิทย์เขาก็ประชาสัมพันธ์โดยทาง สวทช. เขาก็มีรายชื่อนักวิจัยแนบมาให้เราเขียนว่าทำไมถึงอยากฝึกทักษะกับนักวิจัยคนที่เราเลือก ตัวผมเองก็สมัครไป แล้วก็ได้จริงๆ ระยะเวลาก็ 3 เดือน จร้า ใช่ครับ 3 เดือน!!! คือตั้งแต่ มีนา จนถึง พฤษภา เลย

ผมก็เลือกห้องวิจัยความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ไป ซึ่งเป็นห้องวิจัยของ ดร.ชาลี วรกุลพิพัฒน์ คร่าวๆ ผมก็ได้ทำ project อะไรนิดหน่อยที่เด็ก ม ปลาย คนนึงจะพอทำได้ ก็มีอยู่ราวๆ 3 งาน งานแรกก็เป็นเกี่ยวกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือ งานที่สองก็ HPC (High Performance Computing) ลองจำลองใน vbox และ submit job เข้าไปดู งานที่สามก็ honeyPot ศึกษาแล้วก็จำลองใน vbox เหมือนเดิม อืม…. ที่เด็ก ม ปลาย พอจะทำได้ นั่นแหละฮ่ะ ชีวิต 3 เดือนที่อยู่ใน NECTEC ยังก่ะทำงานที่นั่นเลย ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก (แอบบอก ผมขอนักวิจัยว่าอยากเห็น HPC ของ NECTEC ดร. ก็พาผมเข้าไปดู เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าห้อง Datacenter ของ Nectec เขาบอกว่าคนทั่วไปนี่ยังไม่เคยเข้าเลย ผมกับเพื่อนผมนี่เป็น นร ที่ได้เข้าไปเลย เขาห้ามถ่ายรูปก็แน่ล่ะ datacenter ระดับนั้น ในห้องก็มี rack วางอยู่เต็มๆ 4 แถว และจะมีห้องคลุม 2 แถวไว้คาดว่าเอาไว้ควบคุมเรื่องของ air flow ในห้องอากาศก็ไม่ได้เย็นมาก แต่ตัวผมนี่สั่นไปหมด ตื่นเต้นๆ ก็เห็น server มากมายมีทั้งเก่าใหม่ปนๆ กัน ก็นั่นแหละ) ปล.ถ้าว่างจะเขียนแยกเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ การใช้ชีวิต หรือ การดำรงชีวิตรอดใน สวชท. ให้ครับรับรองมันส์แน่ 555

7. ก็ผ่าน 3 เดือนแห่งการฝึกงานไปได้ ตอนนี้เราก็เข้าสู่ช่วงเดือน พฤษภาคมล่ะ บอกเลยว่าเดือนนี้นี่งานหนักจริง เริ่มงานปฐมนิเทศน้อง ม.4 กับ ม.1 อ่าตัวผมเองก็ยังอยู่ สวทช. อยู่ เขาเปิดเทอมกันหมดล่ะปีนี้เขาเปิดเทอมเร็วเพราะมีงาน ต้องเตรียมคนเตรียมงานกัน คือที่จำได้เดือนนี้ทั้งเดือนเหมือนเตรียมงานกันทุกคนเลย ทุกคนต่างมีหน้าทั้งครู นักเรียน บุคคลที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานต่างๆ ถ้าผมจำไม่ผิดผมกลับจาก สวทช. ประมาณวันที่ 11 มั้ง พอถึงโรงเรียนต้องพักผ่อนใช่ไหม แต่ไม่นั้นมันไม่ใช่ผมคนนึงล่ะ กลับมาผมนี่ภาระหนักอึ่งเลยเหมาะมากกับประโยคนี้ “เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว” นั่นแหละฮะประโยคเดียวรู้เรื่อง เริ่มแรกก็เป็นผู้เข้าร่วมงานนำเสนอโครงงานเป็นภาษาอังกฤษ เป็นคนช่วยงานด้านเอกสารงานพิมพ์เรียงเล่ม Abstact book เป็นคนช่วยออกแบบโล่ต่างๆ เป็นคนทำระบบอินเทอร์เน็ต อ่อลืมบอกไปไอ้ cisco 1852i ข้างบนนั่นอ่ะเป็นของโรงเรียนร่วมกับบริษัท ทรู ติดเพิ่ม 24 ตัวในโรงเรียน ของเดิมโรงเรียนมี 52 ตัว ก็ผมนี่แหละคอยชี้จุดติดตั้ง คอยดูช่างที่มาติดตั้ง ตลอดจน setup ระบบให้ทรู กับ โรงเรียน จนเล่นเน็ตได้ ส่วนระบบ login กับ หน้าเว็บ http://tjssf2018.pccpl.ac.th/ เป็นพี่อีกคนกับอาจารย์เป็นคนทำ งานนี้มีรายละเอียดปรึกย่อยเยอะเลยเขียนทั้งวันก็ไม่หมด เอาเป็นว่างานนี้หนักเลยแหละ แต่ก็สนุกดีน่ะ

8. มาสู่ กรกฏาคม ใกล้ล่ะเกินครึ่งปีมาล่ะ ปกติทุกปีผมจะคนแข่งปีนี้ผันตัวมาเป็นคนสอนมั้ง 555 งานนี้ก็เป็นงานเเข่งหุ่นยนต์ WRO2018 รอบภาคเหนือ ก็เป็นคนซ้อมน้องๆ ที่จะไปแข่นนี้ และก็อีกงานที่ จภ.สตูล

9. งานนี่ก็จะเป็นงานเกือบสุดท้ายๆ ล่ะ ของปีนี้เป็นงาน 7th Asia-Pacific Conference of Young Scientists (APCYS 2018) and 2nd KVIS Invitational Science Fair (KVIS-ISF) งานนี้เป็นงานนำเสนอโครงงานในระดับนานาชาติ จัดที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์ผมก็ได้รับโอกาสเป็นตัวแทนไป solo เลยครับงานนี้ งานนี้จัดวันที่ 5- 10 ธ.ค [ก็ตรงกับช่วงที่ยื่น portfolio ของ TCAS รอบ 1 พอดี ก็แอบกดดันอยู่บ้าง]

10. งานสุดท้ายล่ะไปนำเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ ของงานศิลปหัตกรรมนักเรียน รอบนี้เป็นรอบระดับชาติ จัดที่จังหวัดพะเยาผมก็ไป จัดวันที่ 21- 23 ธ.ค บอกเลยกลับจากงานนี้มาก็ไปสอบกลางภาคต่อที่โรงเรียนวันที่ 24 กับ 26 (เผอิญ มจธ. ประกาศผลรอบแรกเร็วกว่าชาวบ้านเขาเลยประกาศ 24 แต่ที่พีคในพีค!! คือ นัดสัมภาษณ์ 27 แหม่สอบเสร็จเข้า กทม. ต่อเลย)

ความฮาอยู่ตรงนี้คือจองรถทัวร์แค่ขาไปอย่างเดียวไอ้เราก็ลืมนึกว่ามันจะตรงวันหยุดปีใหม่ก็ลืมจองรถเที่ยวกลับ แต่จนแล้วจนรอดก็มีรถกลับมานั่งเขียนบทความนี้จนจบ


ก็ขอบคุณจริงๆ ที่อ่านจนจบถึงตรงนี้

มาสรุปกันดีกว่า

ก็ปีนี้เป็นปีที่งานเยอะมากมีหลากหลายอารมภ์และเป็นปีที่ผมคิดว่าเป็น ปีแห่งโอกาส ยอมรับเลยว่าปีนี้ผมได้รับโอกาสมากมายในหลายๆเรื่องและโชคดีมาโดยตลอดทั้งปียันวันสุดท้ายของปี ปีนี้เป็นปีที่ผมได้พบเจอผู้คนมากมายหลายคนผ่านเข้ามาในชีวิตและผ่านออกไปทุกอย่างมีเวลาของมันเอง ปีนี้ทำให้ผมมีประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นในหลายๆด้าน ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมดล้วนแล้วแต่ว่า แต่ละคนจะจัดการใช้มันอย่างไร เรื่องบางเรื่องเกิดขึ้นแล้วก็จบไป แต่บางเรื่องก็ยังคงจะต้องสานต่อไปให้มันเสร็จ จริงๆแล้วผมยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำ ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมเส้นทางเดินของผมจนจบปีนี้ และผมหวังว่าเรื่องราวของผมนั้นอาจปลุกแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนลุกขึ้นมาทำตามที่ฝันไว้ เรื่องราวของผมในปีนี้ผมขอเขียนบันทึกและเผยแพร่ล่ะกันเพื่อเตือนเอาไว้ว่าเราทำอะไรลงไปมั้งใน 1 ปี สุดท้ายนี้ผมขอให้ทุกคนที่อ่านจนจบและไม่จบมีแต่ความสุข สุขสันต์วันปีใหม่ 2562 ครับ…. สวัสดี

Tags